วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตำนานเจ้าสัจจะยามินหน่อเนื้อแห่งพระโพธิญาณ
โดย ทิพยจักร

                  ครูบาอาจารย์ในสายวิชาปะฐะมะสิทธิ ถ้านับกันจริงๆมีมากกว่า ๑๐ องค์  แต่ที่นับถือว่าเป็นสุดยอดฝีมือแห่งเมืองม่านหรือพม่ามีแค่ ๑๐ องค์หลัก ๆ    จริง ๆ แล้ววิชาสายนี้จะบอกว่าเป็นวิชาเมืองม่านหรือพม่าก็ไม่ถูกต้อง เพราะกำเนิดวิชานี้มีมาแต่ก่อนรวมประเทศเป็นพม่านานนับพันปี เรียกว่ามีมาตั้งแต่อาณาจักรมอญรุ่งเรือง
                     หนึ่งในบรมครูที่กล่าวได้ว่าเป็นผู้มีบุญญาธิการสูงสุดในบรรดาครูทั้ง ๑๐ แม้ว่าท่านจะไม่ใช่ครูท่านแรก และยังมีฐานะเป็นศิษย์บรมครูพู่พู่อ่องด้วย แต่ท่านก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นประธานแห่งองค์ครู และเป็นผู้ทรงบุญญาธิการชั้นสูง ทั้งนี้เพราะอะไรเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าบรมครูท่านนี้ได้สั่งสมบุญบารมีเพื่อสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมโพธิญาณ สำเร็จเป็นองค์ศาสดาเอกของโลก ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองทำหน้าที่กอบกู้สรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกข์แห่งสังสารวัฏฏ์ ในภายภาคหน้า โดยฐานะของท่านตอนนี้ท่านจึงเป็นองค์พระโพธิสัตว์ และเป็นพระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ไม่แปรผัน เป็นหน่อเนื้อแห่งพระโพธิญาณ ด้วยปณิธานแห่งองค์ท่านและบุญบารมีที่สั่งสมมานี้จึงทำให้ท่านอยู่ในฐานะแห่งประธานของคณะบรมครูทั้ง ๑๐  ท่านดังกล่าวนี้คือ “เจ้าสัจจะยามินหน่อเนื้อแห่งพระโพธิญาณ”

               ตำนานขององค์เจ้าสัจจะยามินนั้น กล่าวไว้ว่าเมื่อท่านถือกำเนิดมานั้นมีสิ่งพิเศษติดตัวท่านมาสามประการคือ

 ๑ มีลายสวัสดิกะอยู่ที่ฝ่ามือของท่าน อันเป็นลายลักษณ์ของพระธรรมจักรแห่งบรมศาสดา ผู้มีลายนี้ติดตัวแต่กำเนิดถือว่าบำเพ็ญบารมีในพระโพธิญาณมานับชาติไม่ถ้วน
๒ มียาทิพย์อยู่ในมือของท่านเมื่อท่านถือกำเนิดมาแล้ว เทพยดานำเอายาวิเศษมาใส่ไว้ในฝ่ามือของท่าน
๓ เมื่อท่านไปไหนมาไหนจะบังเกิดฉัตรกั้นแดดกั้นลมบังให้ท่านเป็นฉัตรทิพย์ประจำองค์ท่าน
ท่านเป็นถึงราชบุตรของกษัตริย์บูดอเอ เมื่อท่านเกิดมามีคุณวิเศษปานฉะนี้ บรรดาพระชายาท่านอื่น ๆ ของกษัตริย์ก็ย่อมอิจฉาเป็นธรรมดา และพยายามใส่ร้ายโดยว่าจ้างท่านโหราให้ใส่ร้ายว่าเจ้าสัจจะยามินเป็นกาละกิณีต่อบ้านเมืองต้องประหาร

                                เมื่อเงินมีอำนาจ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ท่านโหรเห็นแก่เงินเลยยุยงกษัตริย์บูดอเอว่าลูกของพระองค์จะทำให้บ้านเมืองพินาศเป็นกาลากิณี ทั้ง ๆที่พระองค์ทรงรักลูกคนนี้มาก แต่เมื่อโดนแผนยุยงปลุกปั่นเช่นนี้ก็จำใจสั่งให้ทหารเอาลูกชายสุดที่รักไปประหาร เรื่องที่กำลังเป็นกำลังตายของเจ้าสัจจะยามินนั้น ถูกล่วงรู้โดยญาณทิพย์ของบรมครูพู่พู่อ่อง บรมครูพู่พู่อ่อง ท่านทราบตั้งแต่พระโพธิสัตว์ลงมาอุบัติและมีญาณทัศนะล่วงรู้ความเป็นไปทั้งหมดของเจ้าสัจจะยามิน ทันทีที่เจ้าสัจจะยามินถูกพามาถึงลานประหาร เมื่อเพชรฌฆาตกำลังเงื้อดาบ ทันใดนั้นพู่พู่อ่องก็ปรากฏกายขึ้นบนท้องฟ้าสร้างความตะลึงพึงเพริดแก่ทุกคนทุกสายตาในที่นั้น พริบตาเดียวด้วยฤทธิ์เหนือโลกของบรมครูพู่พู่อ่อง ก็ทำให้เครื่องพันธนาการทั้งหมดที่รัดเจ้าสัจจะยามินหลุดออกแล้วท่านครูพู่พู่อ่องก็มาลอยลงมาอุ้มเจ้าสัจจะยามินไปเลี้ยงดูพร้อมทั้งถ่ายทอดวิชาปะฐะมะสิทธิ ในดินแดนลับแลหรือบุพเพวิหทวีป จนเจ้าชายสัจจะยามินสำเร็จเป็นผู้เศษอีกท่านหนึ่งและกลายมาเป็นหนึ่งในบรมครูทั้ง ๑๐ แห่งสายวิชาปะฐะมะสิทธิตราบจนถึงปัจจุบัน

                    มีเรื่องเล่าอีกว่า เจ้าสัจจะยามิน นั้นเป็นผู้รักความสันโดษความสงบ แต่ในเมื่อท่านมีบุญญาธิการไปไหนมาไหนเกิดฉัตรวิเศษกางกั้นท่านเป็นอัศจรรย์ เวลาไปไหนมาไหนก็จะมีชาวบ้านมาแห่ห้อมล้อมหน้าล้อมหลังเพื่อมาชมบารมี  ใคร ๆ ก็อยากเห็นผู้มีบุญที่สำคัญคืออยากเห็นฉัตรทิพย์ของท่านสัจจะยามินก็เลยแห่กันมา
                 ท่านเจ้าสัจจะยามินเมื่อพิจารณาดูแล้วเห็นว่าเมื่อเหตุเป็นเช่นนี้ชีวิตก็ยากจะหาความสงบได้ ดังนั้นท่านจึงตัดสินใจหักฉัตรทิพย์ของท่าน บางตำนานเล่าว่าท่านไปรบกับผู้วิเศษอีกท่านนึง ชักเอาฉัตรทิพย์มาแทนดาบตีกันจนฉัตรทิพย์หัก ตำนานเรื่องฉัตรทิพย์หักนี้ต่อมาบรมครูที่รับวิชาจากเจ้าสัจจะยามินรุ่นต่อมาได้นำเอาฉัตรทิพย์จากเศษที่หักมานั้นนำมาฝนเพื่อเป็นส่วนผสมสำคัญในการสักยาแดง และเหตุนี้เองจึงทำให้วิชาสายสักยาแดงมีความเข้มขลังยิ่งนัก

                    วิชาสายยาแดงจึงเป็นวิชาที่มีเอกลักษณ์มีตำนาน การสักยาแดงในสายวิชานั้นมีทั้งที่มาจากตำนานฉัตรทิพย์ของเจ้าสัจจะยามิน เซยากีหรือปรอทวิเศษจากสายวิชาของพู่พู่อ่อง และว่านยาต่างๆแล้วแต่ว่าศิษย์ผู้นั้นจะมีวาสนาบารมีมาขนาดไหนก็จะได้ตัวยามหาคุณอันวิเศษพิสดารมาเป็นส่วนหนึ่งของสูตรยาสัก

                   อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะสูตรยาสักแบบครูท่านไหนก็ถือว่าล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์เหมือนกันทั้งสิ้นสำคัญคือใจของผู้รับนั้นต้องมีจิตบริสุทธิ์มีความเคารพศรัทธาอย่างแท้จริง ถือศีลได้บริสุทธิ์ประกอบด้วยจิตมีเมตตาต่อสรรพสัตว์คิดช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากเสมอ ถ้ามีจริยาดังเช่นว่ามานี้เมื่อรับสักสายยาแดงแล้วก็จะเป็นสิริมงคล เป็นความศักดิ์สิทธิ์ต่อบุคคลผู้นั้น

             ปิดท้ายฉบับนี้ด้วยมีข่าวดีสำหรับผู้สนใจสายปะฐะสิทธิคือมีการจัดสร้างล็อกเก็ตพ่อครูโพมินข่อง สิทธามหาเวทย์ หนึ่งในผู้สำเร็จทั้งสิบ ที่ได้รับความเคารพอย่างยิ่งในเมืองม่าน  ด้านหลังฝังยาตำหรับ”ปะฐะมะสิทธิ” และตะกรุด “สะตะปะวะ”มหาวิเศษ โดยครูบาชัยมงคล วัดไทรย้อย อ.เด่นชัย จ.แพร่  พระเกจิอาจารย์ที่เคยเดินทางไปเรียนวิทยาคมสายพม่าที่เชียงตุงและพุกาม
                     
            วัตถุมงคลรุ่นนี้มีสองพิมพ์คือ พ่อครูโพมินข่อง “นั่งช้างป่า มหาอำนาจ”  และพิมพ์”มีกินตลอดชาติ เขาโปปา” ครูบาชัยมงคลได้ประกอบพิธีอัญเชิญญาณพ่อครูทั้ง ๑๐ ประสิทธิ   ยามอาราธนาให้ตั้งจิตเอาคุณพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง คุณพระศรีอาริยะเมตรไตรย์ คุณพระนางสุรัสวดี คุณพ่อครูทั้ง ๑๐ มีพ่อครูโพมินข่องเป็นที่สุด โปรดจงมาช่วยลูกคนนี้ด้วย ปรารถนาสิ่งใดบอกท่านไปเถิดสำเร็จสมปรารถนาทุกประการแล

              หมายเหตุ   ติดต่อสอบถามได้ที่ วัดไทรย้อย  โทร 080-671-5287 และ สุริยันจันทรา 083-073-7515  / 02-399-2000
สำหรับคอลัมน์ สิทธามหาเวทย์  โดย ทิพยจักร ท่านที่สนใจสามารถดูย้อนหลังได้ในหมวดบทความเว็บ www.suriyanchantra.net   และ  http://aseanline.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น