วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2557

พ่อครูโพมินข่อง โดย ทิพยจักร

พ่อครูโพมินข่อง
โดย ทิพยจักร
 ( ติดตามอ่านได้ในบล๊อกนี้ และ  นิตยสารพระเครื่องพุทธคุณ )



              นับจากต้นสายวิชายาแดงและการเล่นแร่แปรธาตุคือบรมครูพู่พู่อ่องซึ่งสำเร็ววิชามหาเวทย์และฌานสมาบัติชั้นสูงสุดแล้ว แต่นั้นมาก็มีผู้แสวงหาติดตามพ่อครูพู่พู่อ่องแทบจะพลิกแผ่นดิน ทั้งกษัตริย์ ทั้งสามัญชน แต่น้อยคนนักที่จะมีวาสนาได้เจอองค์ท่าน 


         บรมครูพู่พู่อ่อง ล่องหนหายตัว เปลี่ยนรูปแปลงกาย ได้ต่างๆนานาสารพัด แยกธาตุหยาบ ฟอกกายละเอียดทำกายให้โปร่งแสง มีกายแต่เสมือนไม่มี สายตาของปุถุชนคนธรรมดาจะไม่มีวันมองเห็นท่านเลย เว้นเสียแต่ท่านจะพบบุคคลผู้มีวาสนาก็จะปรากฏกายสอนในรูปแบบต่างๆ เช่นแปลงร่างเป็นเด็กมาสอน แปลงร่างเป็นคนขอทาน ทั้งนี้เพื่อลองใจใครแต่ละคนดูว่าเมื่อมีวาสนาแล้วจะมีจริยาความประพฤติเหมาะสมด้วยหรือไม่ ถ้ามีความเหมาะสมในทุกๆด้านแล้วท่านก็จะสอนวิถีแห่งความเป็นอมตะ วิถีแห่งฤทธิ์และสันติอันบรมสุขแก่ผู้นั้น ที่สุดบุคคลผู้นั้นจะบรรลุธรรมอันเยี่ยมยอดและได้เข้ารวมกลุ่มกับผู้เป็นอมตะแห่งสายวิชาของบรมครูพู่พู่อ่อง


          แม้มีคนเที่ยวหาบรมครูพู่พู่อ่องมากต่อมาก แต่แน่นอนว่าน้อยคนที่จะได้พบ รวมทั้งผู้ที่ร่ำเรียนวิชาสายบรมครูพู่พู่อ่องด้วยเช่นกันน้อยคนจะบรรลุถึงความเป็นที่สุดในสายวิชานั้น แต่ท่านหนึ่งที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาวพม่าและมอญ เป็นผู้ที่มีตัวตนอยู่จริง นั่นคือ พ่อครูโพมินข่อง 
                                                

         เรื่องราวของพ่อครูโพมินข่องเป็นที่นับถือในหมู่ชาวไทยใหญ่ พม่าและมอญ และนับเอาดพครูโพมินข่องเป็นหนึ่งในสิบของพ่อครูทั้ง ๑๐ แห่งสายวิชายาแดงอีกด้วย

          รายนามพ่อครูทั้ง ๑๐ นั้นมีดังนี้คือ ๑ พ่อครูพู่พู่อ่อง ๒ พ่อครูโพมินข่อง ๓ พ่อครูบูดออี ๔ พ่อครูบูดอบิวหรือสะยาปิ๋ว ๕ พ่อครูบูดอป๋วย ๖ พ่อครูอุเมี๊ยะขิ่น ๗ พ่อครูสัจจะยามิน ๘ พระมหาโอสถวิชา ๙ เส่วิชา ๑๐ ต่อวิชา 



         ทั้ง ๑๐ ท่านนับเป็นยอดบรมครูแห่งการสักสายยาแดง รวมไปถึงวิชาการเล่นแร่แปรธาตุเพื่อสำเร็จความเป็นอมตะ ธรรมของพ่อครุทั้ง ๑ๆ นั้นล้ำลึกพิสดาร สมบูรณ์ด้วยธรรมและอิทธิฤทธิ์ พลังเหนือโลก ที่สามัญชนคนธรรมดายากจะเข้าถึง ตามคติความเชื่อนั้นแม้ผู้ใดมีบารมีของพ่อครูท่านใดเพียงท่านเดียวสถิตย์อยู่กับตัว ด้วยลายสักยันต์ยาแดงก็ดี หรือด้วยคาถาที่ท่องจำไว้ในใจก็ดีหรือเพียงระลึกถึงท่านด้วยใจเคารพศรัทธาอันมั่นคงก็ดี คนผู้นั้นไม่มีโดนทำร้ายด้วยคุณไสย คุณคน หรือแม้แต่พิษร้าย สัตว์ร้ายต่างๆก็ไม่สามารถทำอันตรายใดๆได้ 




         พ่อครูโพมินข่อง คือหนึ่งในผู้บรรลุอภิญญาฤทธิ์แห่งเมืองพุกาม มีผู้คนบูชาท่านมากมาย ขนาดที่เขาโปปาอันเป็นสิงสถิตของมังมหาคีรีนัต ยังได้จัดห้องของท่าน จำลองที่อยู่ของท่านไว้บนเขาโปปา เพื่อให้คนได้มีโอกาสไปสักการะ ไประลึกถึงอยู่เป็นประจำ


           รูปของพ่อครูโพมินข่อง มักเห็นในรูปของครูที่ปล่อยผมสยาย นั่งไขว้เท้าในท่าขัดสมาธิ และที่เป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่งคือท่านมักถือถ้วยน้ำชาในท่ากำลังจิบอยู่เสมอ 

         ในบรรดาครูทั้ง ๑๐ นั้นเป็นที่เชื่อกันว่า มีอย่างน้อย ๒ ท่านที่มีชีวิตเป็นอมตะ คือพ่อครูพู่พู่อ่อง และพ่อครูโพมินข่อง กล่าวกันว่าพ่อครูพู่พู่อ่อง ท่านใช้วิธีฝึกวิชาไปตามขั้นจนสำเร็จ ส่วนพ่อครูโพมินข่องใช้เคล็ดฝึกวิชาย้อนกลับ หมายความว่าพ่อครูพู่พู่อ่องนั้นฝึกตามลำดับจากขั้นวิชา ๑ ๒ ๓ ๔ ไปจนสำเร็จขั้นสูงสุด ส่วนพ่อครโพมินข่องนั้นเมื่อเรียนวิชาท่านเริ่มจากวิชาที่ยากที่สุดก่อนและไล่ไปจนถึงวิชาขั้นพื้นฐาน ทั้งสองท่านสำเร็จแล้วอธิษฐานรักษาคุ้มครองพระพุทธศาสนา มีชีวิตยืนยาวเป็นกัปล์ รอรับเสด็จพระศรีอาริยะเมตรตรัย เมื่อฟังธรรมจากพระองค์จิตก็จะบรรลุสู่นิพพานธรรมและดับขันธ์เข้าสู่พระนิพพานในทันที การสำเร็จวิชาของท่านพู่พู่อ่องและโพมินข่องนั้น คือสำเร็จทั้งด้านสมาธิจิต คือการเข้าฌานสมาบัติ กสิณ การเพ่งดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ จนเข้าอรูปฌานได้ การสำเร็จพระเวทย์คือการท่องมนตราและการตั้งพิธี การสำเร็จวิชาเล่นแร่แปรธาตุ ทั้งปรอทสำเร็จและเหล็กไหลวิเศษ รวมทั้งการปรุงยาอมตะจากสมุนไพรที่หาได้จากเขาโปปา ด้วยความสามารถความสำเร็จทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงเป็นคุณวิเศษเหนือโลก ที่ทำให้ท่านทั้งสองสมบูรณ์ด้วยฤทธิ์ยิ่งกว่าผู้ใดในปฐพี 



     ทุกวันนี้ยังเชื่อกันว่า ทั้งพู่พู่อ่องและโพมินข่องบรมครูผู้วิเศษศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองนั้นยังคงดำรงสังขารอยู่ ผู้ที่ระลึกถึงนามท่านจะได้รับพรอันวิเศษ ผู้ที่ภาวนาถึงท่านจะได้รับความเมตตา และทุกวันนี้ชาวพม่ายังเชื่อกันว่าท่านทั้งสองยังสถิตย์อยู่ในเขาโปปา ในส่วนของแดนทิพย์อันเป็นภพภูมิที่เหลื่อมซ้อนกับตัวเขาอย่างลี้ลับ คนธรรมดามองไปจะเห็นเพียงแท่งหินทึบ แต่ผู้บรรลุจตุถฌานหรือได้ฌาน ๔ จะสามารถเห็นถ้ำลี้ลับซ้อนอยู่ภายใน อันเป็นที่สถิตย์ของเหล่าบรมครูทั้งหลายผู้เป็นอมตะ
                                               

เมื่อปลายปี พ.ศ.2556  คณะของ หลวงปู่บุญ โสภโณ วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี  ครูบาชัยมงคล วัดไทรย้อย  อ.เด่นชัย จ.แพร่ พระอาจารย์ภูไทย ปภากโร  วัดเขาแก้วชัยมงคล  อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย และพระอาจารย์ฉลอง  ปํญญาวโร  วัดยางเอน อ.เมือง จ.สุโขทัย ท่านเหล่านี้ได้ไปประกอบพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลสายยาแดง สายพู่พู่อ่องที่เขาโปปา ประเทศพม่า  ณ ห้องนอนของท่านบรมครูโพมินข่อง




        แน่นอนว่างานนี้ครูบาชัยมงคลและครูบาภูไทร่วมน้อมจิตส่งกระแสอัญเชิญพ่อครูทั้ง ๑๐ สายยาแดง โดยมีบรมครูพู่พู่อ่องเป็นประธาน


               เพื่อมาประกอบพิธีพุทธาภิเษก ให้วัตถุมงคลทุกชิ้นทุกอันทุกองค์เกิดความเข้มขลัง มีอานุภาพขจัดเสีนยดจัญไร ป้องกันภยันอันตรายทั้งหลาย เป็นเครื่องค้ำคูณดวงชะตาและเป็นมหาเสน่ห์ชั้นสูง



         วิชาสายยาแดงหรือสายของบรมครูพู่พู่อ่องนั้นโดดเด่นยิ่งนักเรื่องการป้องกันผู้อื่นให้ร้ายทำร้ายทั้งทางตรงทางอ้อม แถมยังเด่นอย่างยิ่งเรื่องเสน่ห์ชั้นสูง ดังนั้นผู้ใดที่ได้วัตถุมงคลชุดนี้ไว้ครอบครองบอกได้เลยว่าบุคคลผู้นั้นถือว่ามีบารมีของพ่อครูทั้งสิบปกเกล้าปกกระหม่อมอย่างเต็มๆ โดยเฉพาะบารมีของบรมครูพู่พู่อ่องและบารมีของพ่อครูโพมินข่อง ยังไม่นับบารมีจากวิชาเร้นลับสายล้านนาและพลังจิตจากครูบาอาจารย์ในคณะที่ไปร่วมกันแผ่พลังจิตอธิษฐานเครื่องมงคลชุดนี้ให้มีความสมบูรณ์อย่างถึงที่สุด




สำหรับรายการวัตถุมงคลที่ได้รับการอธิษฐานจิต ณ เขาโปปา ประเทศพม่า ที่ห้องนอนของพ่อครูโพมินข่องมีดังนี้






หมายเหตุ    สนใจติดต่อได้ที่

วัดทุ่งเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี  โทร 080-567-4807

ครูบาชัยมงคล วัดไทรย้อย อ.เด่นชัย จ.แพร่  โทร.080-671-5287

พระอาจารย์ภูไทย ปภากโร วัดเขาแก้วฯ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย  โทร085-4000-101

พระอาจารย์ฉลอง  ปํญญาวโร  วัดยางเอน อ.เมือง จ.สุโขทัย

และทุกรายการมีรวมอยู่ที่ “ สำนักงาน สุริยัน จันทรา” สุขุมวิท 101/1 โทร 02-399-2000 / 083-073-7515 / 094-930-9355   อีเมล์   3992000@gmail.com       

รายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้ที่  www.สุริยันจันทรา.com  / www.poothai.net / www.krooba.com