วันจันทร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2557

พ่อครูพู่พู่อ่องและพ่อครูโพมินข่อง สายวิชาปะฐะมะสิทธิหรือวิชาสายยาแดง โดย ทิพยจักร


พ่อครูพู่พู่อ่องและพ่อครูโพมินข่อง  สายวิชาปะฐะมะสิทธิหรือวิชาสายยาแดง  
โดย ทิพยจักร



                เรื่องราวตำนานของพ่อครูทั้ง ๑๐ ของเมืองม่านหรือพม่านั้นหลายคนให้ความสนใจมาก ทั้งนี้เพราะเรื่องราวของท่านลึกลับและมากด้วยปาฏิหาริย์ไม่แพ้เรื่องราวของหลวงปู่เทพโลกอุดรของไทยเราเลย ทุกวันนี้ชาวพม่ายังเชื่อกันว่าพ่อครูทั้ง ๑๐ นั้นยังมีชีวิตอยู่และคอยทำหน้าที่ปกปักษ์รักษาพระพุทธศาสนา และรักษาเมืองพม่าให้รอดปลอดภัยมาทุกยุคทุกสมัยอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อเกิดเหตุคราวคับขันอย่างไรแล้วท่านทั้ง ๑๐ ก็จะเนรมิตรกายออกจากป่ามาสู่เมืองเพื่อโปรดผู้ทุกข์ผู้ยากอยู่เสมอ

                ก่อนเข้าเรื่องของพ่อครูท่านต่อไป จะขอทำความเข้าใจเรื่องนัตเมืองม่านกันก่อนครับ คำว่านัต หมายถึงผี ครับ นัต ของพม่าที่บูชากันอยู่ทุกวันนี้ก็หมายถึงผีที่ทำหน้าที่คุ้มครองปกปักษ์รักษาบ้านเมือง โดยนัตนั้นแบ่งเป็นสองจำพวกคือ เทวดาอย่างหนึ่ง และผีตายโหงอย่างหนึ่ง นัตที่เป็นเทวดา ก็เช่นพระอินทร์ ครับ ส่วนนัตที่เป็นผีตายโหงนั้นมีหลายตน  ทำไมจึงเป็นผีตายโหง เรื่องนี้เพราะว่าผู้ที่ตายในการศึกสงครามประการหนึ่งถือว่าเป็นวีรบุรุษรักษาประเทศชาติสมควรยกให้เป็นผีเมือง อีกประการหนึ่งคือผู้ที่สิ้นด้วยโศกนาฏกรรมทั้งๆที่เป็นคนดีก็สมควรยกย่องให้เป็นผีบรรพบุรุษทำหน้าที่คอยคุ้มครองลูกหลานคนดีมีศีลธรรมเช่นกัน

                ดังนั้นผีนัต จึงเป็นผีที่มาจากนักรบ และมาจากคนดีแต่แล้วกลับตายร้ายจึงถูกยกย่องขึ้นเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ที่เรียกว่า นัต นั่นเอง

                ในส่วนของพ่อครูทั้ง ๑๐ ถูกแยกออกจากนัตครับ เรียกว่าสิทธาหรือผู้สำเร็จ มีฐานะสูงส่งกว่านัต ทั้งมีฤทธิ์ตบะเดชะสูงส่งกว่าสรรพวิญญาณทั้งหลาย อย่างเทียบเคียงกันไม่ได้เลย ดังว่ามานี้คงรู้ถึงความแตกต่างระหว่างนัตและสิทธาทั้ง ๑๐ หรือพ่อครูทั้ง ๑๐ แห่งเมืองม่านกันแล้ว ว่าแตกต่างกันอย่างไร
                หนึ่งในบรมครูที่คนม่าน(พม่า) นับถือที่สุดเคียงคู่กับการนับถือพู่พู่อ่อง และมีคติวางรูปของท่านไว้คู่กันเสมอก็คือพ่อครูโพมินข่อง ตำนานของพ่อครูโพมินข่องนั้นเล่าไว้ว่า ท่านได้ร่ำเรียนวิชากายสิทธิ์ปะฐะสิทธิ อันเป็นตำราเล่มเดียวกันกับบรมครูพู่พู่อ่อง แต่การร่ำเรียนวิชาของท่านพิสดารนักคือท่านเรียนวิชาย้อนกลับ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่เรียนพิสดารเช่นนี้ได้ย่อมเป็นผู้มีบุญวาสนาเป็นอัจฉริยะบุคคลลงมากำเนิด เป็นผู้บำเพ็ญบารมีทางพระโพธิญาณมานับไม่ถ้วน มิเช่นนั้นแล้วไฉนเลยจึงสามารถเรียนวิชาย้อนทวนได้
                                                           
                พ่อครูโพมินข่อง อาศัยการทานว่านยาและการเรียนวิชาแบบย้อนกลับหรือย้อนทวนวิชา จนกระทั่ง จิตเป็นทิพย์ กายเป็นทิพย์ วาจาศักดิ์สิทธิ์ บรรลุสมาบัติสูงสุดพร้อมด้วยอภิญญา ๕ ประการ สำเร็จวัชระกาย เนื้อตัวเป็นทิพย์ มีอำนาจวิเศษอาจบันดาลสิ่งต่างๆได้ตามปรารถนา ทั้งควบคุมธาตุทั้ง ๔ ได้อย่างพิสดารเด็ดขาดตายตัว อยู่บนโลกในฐานะคุรุเทพผู้วิเศษ ทำหน้าที่ประดุจพระโพธิสัตว์ท่องเที่ยวโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณ


                ตามตำนานนั้นกล่าวไว้ว่าพ่อครูพู่พู่อ่องและพ่อครูโพมินข่องต่างเคยทดสอบฝีมือกัน ปรากฏว่าไม่มีใครแพ้ใครชนะ เป็นยอดฝีมือด้วยกันทั้งคู่ พ่อครูพู่พู่อ่องผู้เป็นยอดวิชาจึงยกให้พ่อครูโพมินข่องเสมอด้วยกับตน เป็นสหายธรรมอันรักกันยิ่ง และเป็นที่มาที่ทำให้คนเมืองม่านต่างวาดภาพหรือตั้งรูปเคารพของทั้งสององค์ไว้คู่กันเสมอ
                ปัจจุบันเชื่อว่าทั้งพ่อครูพู่พู่อ่องและพ่อครูโพมินข่อง ต่างเป็นผู้ได้กายวัชระเป็นอมตะไม่มีวันตาย ท่านทั้งสองจะมีอายุยืนยาวเท่าไหร่ก็ได้ตามปรารถนาแม้จะอยู่คู่ฟ้าคู่ดินก็สามารถ เพราะสำเร็จกายสิทธิ์ชั้นสูงสุด มีอายุยืนยาวประดุจเทพเจ้าเหล่าพระพรหมผู้เรืองฤทธิ์ ทั้งนี้พ่อครูทั้งสองต่างพำนักอยู่ที่ บุพเพวิหทวีป อันเป็นทวีปมงคลเป็นแดนลับแล โดยมีเขาโปปาเป็นทางเชื่อมมิติ ด้วยเหตุนี้ผู้ใดที่เข้าสมาธิฌาน ได้อุปจารสมาธิอาจนั่งทางในมองเข้าไปในเขาโปปา ก็อาจได้เห็นเหล่าบรมครูผู้เรืองฤทธิ์มีชีวิตเป็นอมตะได้อย่างน่าอัศจรรย์

                ในตำนานของโลกแห่งความลี้ลับทางฌานสมาบัตินั้น ผู้ที่มีฤทธิ์มีเดช มีตบะฌานอันสูงส่งจนสามารถมีอายุยืนยาวเป็นกัปล์ได้นั้น มีอยู่หลายท่าน เช่นเรื่องราวของมหามุนีศิวะบาบาหรือบาบาจีแห่งเขาหิมาลัย กเป็นมหาโยคีที่มีอายุวัฒนะอยู่คู่ฟ้าดิน หรือเซียนทั้ง ๘ ของจีนก็เป็นผู้มีอายุวัฒนะเช่นกัน หรืออย่างเรื่องราวของหลวงปู่สรวงเทพเจ้าแห่งเขาพนมกุเลนที่มีอายุยืนยาวกว่า ๕๐๐ ปี ในไทยเราเองก็มีเรื่องราวของหลวงปู่เทพโลกอุดรที่มีอายุยืนยาวเป็นหลายพันปี นอกจากนี้ถ้าค้นคว้าในคัมภีร์ของพระพุทธศาสนาก็มีเรื่องราวของพระปิณโฑล ซึ่งมีอายุยืนยาวชั่วกัปล์ ท่านจะมีอายุจนกว่าพระพุทธศาสนาจะเสื่อมสิ้นไป บัดนี้ท่านมีอายุได้ ๒๕๐๐ กว่าปีแล้ว ดำรงธาตุขันธ์ด้วยอำนาจอิทธิบาทฌานอยู่ ณ ป่าหิมพานต์ริมสระอโนดาต อีกทั้งพระอุปคุตที่มีอายุยาวนาน ๒ พันกว่าปีจำพรรษาอยู่ภายในเวียงวังพญานาค

                เรื่องราวของท่านเหล่านี้ถูกบันทึกไว้ตามคัมภีร์ในแต่ละศาสนา ทั้งนี้เรื่องราวของพ่อครูพู่พู่อ่องและพ่อครูโพมินข่องทั้งพ่อครูอีกทั้ง ๘ ท่านในสายยาแดงหรือเรียกเต็มๆว่าสายปะฐะมะสิทธินั้นก็เป็นตำนานแห่งผู้มีอายุวัฒนะ ด้วยอำนาจแห่งฌานสมาบัติ และปรอทวิเศษกายสิทธิ์ การกินว่านยามหาวิเศษ จึงสำเร็จทำให้เนื้อตัวเป็นทิพย์ ดิน น้ำ ลม ไฟ กาย วาจา จิตล้วนเป็นทิพย์เป็นอมตะ วิชาเช่นนี้สามารถทำให้ร่างกายเนื้อตัวเป็นประดุจคลื่นพลังงาน อยู่พ้นแรงโน้มถ่วงของโลกและสามารถอยู่ได้โดยพ้นปัจจัยต่างๆของโลก เป็นเสมือนเทพเจ้าที่อยู่ในโลกนี้

                ด้วยธรรมอันเร้นลับสูงส่งที่ท่านเหล่านี้บำเพ็ญจนเป็นธรรมอันเหนือโลก  จึงทำให้ท่านเป็นสิ่งเร้นลับที่ยากจะเข้าถึงโดยปุถุชนทั่วไป  แม้ท่านจะดขเมาอยู่ปะปนกับเราๆท่าน กระเราๆท่านๆทั้งหลายก็มีอาจรู้ได้ว่าท่านกำลังอยู่ใกล้เราแค่ไหน แม้สายตาของเราที่ว่าเห็นๆหลายสิ่งหลายอย่างภายใต้พระอาทิตย์ดวงนี้ แต่สายตาของเราก็ไม่อาจเห็นท่านเหล่านั้นได้แม้ว่าท่านเหล่านั้นจะอยู่ใกล้เราแค่ไหนก็ตาม เพราะกิเลสตัณหานั้นบดบังสายตาของเรามิให้เห็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนภายใต้แสงพระอาทิตย์ มีแต่ผู้ที่ทรงฌานมีธุลีกิเลสน้อยในดวงตาเท่านั้นจึงสามารถเห็นท่านเหล่านั้นได้

                หากจะเข้าใกล้ท่านเหล่านั้นก็คงต้องอาศัยการบำเพ็ญสมณะธรรม จนบรรลุฌานสมาธิ จนสามารถจูนคลื่นความถี่จากจิตของเราให้เท่ากับท่านเหล่านั้น จึงสามารถเห็น สามารถติดต่อกับท่านเหล่านั้นได้อย่างสะดวก

                แต่หากยังไม่สามารถเข้าใกล้ ติดต่อท่านเหล่านั้นได้ก็คงต้องอาศัยวัตถุมงคลที่กำเนิดจากสายวิชาปะฐะมะสิทธิหรือวิชาสายยาแดง ติดตัวคู่กายไว้ ก็จะเสมือนเป็นองค์ท่านติดตามคุ้มครอง ดูแลไปตลอด หรือนำเอามากำภาวนาก็อาจสามารถสื่อถึงครูบาอาจารย์แห่งสายปะฐะมะสิทธิได้อย่างน่าอัศจรรย์

            หมายเหตุ
        สำหรับรายการวัตถุมงคลที่ได้รับการอธิษฐานจิต ณ เขาโปปา ประเทศพม่า ที่ห้องนอนของพ่อครูโพมินข่อง สนใจติดต่อได้ที่   วัดทุ่งเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี  โทร 080-567-4807  / ครูบาชัยมงคล วัดไทรย้อย อ.เด่นชัย จ.แพร่  โทร.080-671-5287 / พระอาจารย์ภูไทย ปภากโร วัดเขาแก้วฯ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย  โทร085-4000-101 / พระอาจารย์ฉลอง  ปํญญาวโร  วัดยางเอน อ.เมือง จ.สุโขทัย
และทุกรายการมีรวมอยู่ที่
          “ สำนักพระเครื่อง สุริยัน จันทรา” สุขุมวิท 101/1 บางนา กรุงเทพฯ
         โทร                 02-399-2000 / มือถือ 083-073-7515 /  094-930-9355
           อีเมล์            3992000@gmail.com


www.สุริยันจันทรา.com        www.poothai.net         www.pooboon.com       
 www.krooba.com      www.amulettv.com



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น