เส้นทางแห่งศรัทธา
ตอน ทะเลเจดีย์ที่พุกาม
“ศรัทธา”
ตามความหมายที่ใช้ในพจนานุกรม หมายถึง
"ความเชื่อถือ, ความเลื่อมใส" คำว่า “ศรัทธา” นี้ราชบัณฑิตยสถาน
ได้บัญญัติมาจากคำว่า” faith” และอธิบายว่า หมายถึง "ความเชื่อ
ความเลื่อมใส
ศรัทธา
แม้จะเป็นนามธรรม
แต่เป็นสิ่งที่มี”พลัง”อย่างหาที่สุดมิได้
อารยธรรมที่เกิดบนโลกนี้ ล้วนได้รับแรงส่งจาก “พลังศรัทธา” ทั้งสิ้น แม้สิ่งมหัศจรรย์ของโลก อาทิ นครวัด มหาพีระมิดแห่งกีซา ฯลฯ ก็มาจากพลังศรัทธาของผู้สร้าง
เส้นทางแห่งศรัทธา ที่ทอดยาวมาแต่อดีตสูปัจจบัน
ได้จารึกตำนานแห่งมนุษยชาติที่ผูกพันกับความเชื่อ ความเลื่อมใส แม้ในยุคดิจิตอล ยุคข้อมูลข่าวสาร
“ศรัทธา” ยังคงยืนหยัดยืนยงผ่านกาลเวลามาได้
ดังที่เห็นรูปปรากฏร่างสะท้อนความเชื่อ ความเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนแห่งอุษาคเนย์ที่ได้รังสรรค์ทะเลเจดีย์ที่พุกาม ( Bagan ) ประเทศพม่า
พุกาม
เคยเป็นที่ตั้งอาณาจักรโบราณแห่งแรกในประวัติศาสตร์พม่า ระหว่างช่วงปี พ.ศ. 1587 ถึง
พ.ศ. 1830
พุกาม
ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตมัณฑะเลย์ อยู่ห่างประมาณ 90 ไมล์ หรือ 145 กิโลเมตร
ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมัณฑะเลย์ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เขตเมืองเก่า
(เขตที่ตั้งอาณาจักรพุกาม) เขตเมืองใหม่ (เขตที่อยู่อาศัยปัจจุบัน) และยองอู
(เขตพาณิชยกรรมและเศรษฐกิจ) มีสนามบินชื่อ สนามบินยองอู
เป็นสนามบินประจำเมือง รายได้หลักของเมืองคือ
การท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนที่นี่
การเดินทางไปเยือนพุกามปัจจุบันสะดวกสบายพอสมควร จากกรุงเทพฯ
ประเทศไทย
นั่งเครื่องบินไปลงที่มํณฑะเลย์
แล้วต่อเครื่องบินไปพุกามโดยสายการบินภายในประเทศจะสะดวกที่สุด
ส่วนทางรถยนต์
ทางเรือจากมัณฑะเลย์ก็มีบริการสำหรับชาวบ้านและนักทัศนาจรประเภทชอบผจญภัย
ชอบประหยัดหรือแบคแพคเกอร์ที่อึด ๆ สามารถใช้เส้นทางบกและทางเรือก็จะได้รสชาติไปอีกแบบ
พุกามได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลเจดีย์
หรือ ดินแดนแห่งเจดีย์สี่พันองค์ เพราะในสมัยรุ่งเรืองเคยมีเจดีย์มากมายถึง 4,446
องค์ ปัจจุบันเหลือ 2,217 องค์ เจดีย์แห่งแรกของพุกามคือ
พระมหาธาตุเจดีย์ชเวซีโกน ( Shwezigon Pagoda ) เป็นเจดีย์ใหญ่ สวยงาม
ศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศพม่า
เป็นที่เคารพนับถือของทั้งชาวพม่าและชาวพุทธ
ถือเป็น 1 ใน 5 ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า
ชื่อ "ชเวซีโกน" มีหมายความว่า
"เจดีย์ทองแห่งชัยชนะ" (ชเว แปลว่า ทอง) สร้างโดย พระเจ้าอโนรธามังช่อ
แต่แล้วเสร็จในรัชกาลพระเจ้าจานสิตาแห่งอาณาจักรพุกาม
ภายในเจดีย์เชื่อว่าบรรจุพระเขี้ยวแก้วและพระสารีริกธาตุ
โดยอัญเชิญมาจากศรีลังกา ตามตำนานกล่าวว่าการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วและพระสารีริกธาตุมานั้นประดิษฐานบนหลังช้างเผือก
พระเจ้าอโนรธามังช่อทรงตั้งพระทัยอธิษฐานว่า.....ถ้าช้างเผือกคุกเข่าลงที่ใด
จะสร้างพระมหาเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วและพระสารีริกธาตุ ไว้ที่นั่น
เจดีย์ชเวซีโกนได้รับบูรณะในสมัยต่อมาอีกหลายครั้ง
เจดีย์ชเวซีโกนเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำพื้นผิวภายนอกถูกปิดด้วยทองคำเปลว มีความสูงราว
53 เมตร มีลวดลายปูนปั้นอันวิจิตรอยู่ 3 แถว และมีเจดีย์เล็ก ๆ
เป็นบริวารอยู่รายรอบ
ผู้นำทาง หรือไกด์ท้องถิ่นชาวพม่า
แต่พูดไทยได้คล่อปร๋อ สาธยายความอัศจรรย์ 9
ประการของพระมหาธาตุชเวซีโกน แห่งพุกาม
ให้ฟังดังนี้
1.ยอดพระเจดีย์ไม่มีการใช้เหล็กเสริม
2.กระดาษห่อแผ่นทองคำเปลวที่นำไปปิดส่วนยอดพระเจดีย์
จะไม่ปลิวพ้นฐานสี่เหลี่ยมของพระเจดีย์
3.เงาพระเจดีย์จะไม่ล้ำออกนอกฐานสี่เหลี่ยมของพระเจดีย์
(ถ้าเงาล้ำออกไป ถือว่าเป็นลางร้าย)
4.ภายในเขตองค์พระเจดีย์
สามารถรองรับผู้แสวงบุญได้ไม่จำกัดจำนวน (ไม่เคยเต็ม)
5.มีการให้ทานด้วยข้าวสุกร้อน ๆ ทุกเช้า
(ไม่ว่าเราจะตื่นเช้าสักเพียงใด จะพบข้าวสุกในบาตรอยู่ก่อนหน้าเราเสมอ)
6.เมื่อตีกลองใบใหญ่จากด้านหนึ่งของพระเจดีย์
จะไม่สามารถได้ยินเสียงกลองจากด้านตรงข้าม
7.แม้พระเจดีย์จะตั้งอยู่บนพื่นราบ
แต่เมื่อมองจากภายนอก จะเกิดภาพลวงตาคล้ายพระเจดีย์ตั้งอยู่บนที่สูง
8.ไม่ว่าฝนจะตกหนักเพียงใด
จะไม่มีน้ำฝนขังอยู่ในอาณาเขตขององค์พระเจดีย์
9.มีต้นพิกุล ในบริเวณนี้จะออกดอกตลอดทั้งปี (ปกติจะออกปีละครั้ง)
นี่เป็นเพียง
1 ในทะเลเจดีย์ที่พุกาม ยังอลังการงานสร้างขนาดนี้