วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

พ่อครูโพดอห่าน ตอน ผจญลูกสาวต่อเต็งโหย่ง

สิทธามหาเวทย์ โดย ทิพยจักร
พ่อครูโพดอห่าน ตอน  ผจญลูกสาวต่อเต็งโหย่ง
สายวิชายาแดงหรือยาสัจจะ เริ่มต้นตั้งแต่บรมครูโพโพอ่อง ซึ่งท่านได้สั่งสอนถ่ายทอดวิชาให้กับพ่อครูสย่าเอและสย่าปิว ต่อมาพ่อครูสย่าเอและสย่าปิวจึงถ่ายทอดวิชานี้ให้กับพ่อครูสย่าปุ้ย ในยุคของพ่อครูสย่าปุ้ยท่านได้ขนานนามวิชาที่ได้รับการถ่ายทอดนี้ว่า เอ็กซาติยะ
       ต่อมาพ่อครูสย่าปุ้ยได้ถ่ายทอดวิชาให้กับพ่อครูสย่าห่าน ในยุคของพ่อครูสย่าห่านได้ขนานนามวิชานี้ขึ้นว่า ส่วยหยิ่นจ่อ เอ็กซาติยะ

เรื่องราวของพ่อครูสย่าห่านน่าศึกษามาก เพราะมีเรื่องของการผจญภัยต่อสู้กับพ่อมดหมอผีมนต์ดำอยู่หลายครั้งภายหลังจากแม่มดมนต์ดำต่อเต็งโหย่งพ่ายแพ้แก่บารมีธรรมของพ่อครูโพดอห่านแล้ว ลูกสาวคนหนึ่งเกิดความเคียดแค้นในพ่อครูโพดอห่านมาก จึงคิดแก้แค้นให้แม่ของตน

มาวันหนึ่งขณะที่พ่อครูโพดอห่านกำลังขายบุหรี่ให้ชาวจีนในเมืองเมาะละแหม่ง เผอิญได้เห็นหญิงคนหนึ่งหยิบของในร้านชาวจีนมากมาย พอจะออกจากร้านกลับจ่ายเงินให้เพียงนิดเดียวไม่สมกับของที่เอาไป ชายจีนเจ้าของร้านก็ไม่ว่ารับเงินแล้วก้มหน้าทำงานต่อ เป็นที่แปลกใจของพ่อครูโพดอห่านมากจึงถามกับเจ้าของร้านชาวจีนนั้นว่าไม่เห็นรึว่าผู้หญิงคนนั้นเอาของไปตั้งเยอะแต่จ่ายเงินให้ท่านนิดเดียว
เจ้าของร้านบอกว่าเห็น แต่ไม่กล้าว่าอะไร เพราะผู้หญิงคนนี้เป็นอ็อกลาน เป็นแม่มดมนต์ดำ มีวิชาปลอ่ยของเข้าท้องคนทำให้ตายได้ ใคร ๆ ก็กลัวนางคนนี้ทั้งสิ้น เพราะสามารถเสกลูกมะพร้าว หนังวัวหนังควาย ตะปูเข้าท้องได้หมด นับว่าเป็นผู้มีวิชาแก่กล้ามาก
แม่มดอ็อกลานล่วงรู้สิ่งที่พ่อครูโพดอห่านสนทนากับพ่อค้าชาวจีน ก็ไม่พอใจหมายจะลองวิชาฆ่าพ่อครูให้ได้ วันรุ่งขึ้น แม่มดอ็อกลานจึงมาดักรอพ่อครูแล้วเชิญให้ไปรับประทานอาหารที่บ้านของตน พ่อครูโพดอห่านจำหน้าไม่ได้นึกว่าจะเป็นลูกค้ามาติดต่อขอซื้อบุหรี่ก็ไปด้วย พอไปถึงนางแม่มดอ็อกลาน นำอาหารออกมามากมาย มีผัดถั่วงอก ปลาทอด น้ำพริก ฯลฯ พ่อครูโพดอห่านแปลกใจว่าทำไมจึงเอาอาหารมากมายขนาดนี้ ชะรอยจะมาลองวิชาหรือมีพิรุธอย่างหนึ่งอย่างใด ในขณะที่นางแม่มดอ็อกลานเดินกลับเข้าไปในครัว พ่อครูก็เอามือโบกเหนือสำรับกับข้าวแล้วสั่งด้วยวาจาสิทธิ์ว่า เป็นมาอย่างไรให้คืนสภาพเป็นอย่างนั้น ปรากฏว่ากับข้าวบางจานนั้นเช่นผัดถั่วงอกกลับกลายเป็นหนอนยั้วเยี้ยไปหมด ส่วนปลาทอดกลายเป็นเส้นผมผีตายโหงและหนังวัวเสก ถ้ากินลงไปก็ถึงตาย

 เมื่อพ่อครูรู้แล้วก็โบกมือให้ทุกอย่างกลับเป็นอาหารเหมือนเดิม แล้วสั่งด้วยวาจาสิทธิ์ว่า ขอให้ทวยเทพที่ทำหน้าที่ผูกมัดจงมัดภูติผี เมื่อนางแม่มดมานั่งร่วมวง พ่อครูก็รับประทานอาหารตามปกติ ส่วนนางแม่มดอ็อกลานนั้นทันทีที่มานั่งก็เกิดอาการขยับตัวไม่ได้เหมือนโดนผูกมัด เพราะทวยเทพยดาที่ทำหน้าผูกมัดได้มัดไว้แล้วด้วยเชือกทิพย์
พ่อครูรับประทานอาหารได้ตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทานเสร็จก็ขอบคุณขอตัวลากลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่บัดนี้นางแม่มดอ็อกลานกำลังทุรนทุรายเพราะโดนผูกมัดด้วยอำนาจวาจาสิทธิ์อยู่ จึงร้องขอความช่วยเหลือจากพ่อครูพร้อมทั้งรีบขอขมาในสิ่งที่ตนเองทำลงไป
พ่อครูหันมาถามว่าท่านรับรองเลี้ยงดูเราอย่างดีแล้วมาขอขมาเรื่องอะไร ตอนนี้แม่มดอ็อกลานสารภาพหมดเปลือกว่า ไม่พอใจที่พ่อครูคุยกับเจ้าของร้านชาวจีน วันนี้เชิญมาบ้านเสกเส้นผมผีตายโหง ตะปู หนังวัว ให้เป็นอาหารหมายให้ท่านกินเข้าไปจะได้ตาย แต่วิชากลับทำอะไรไม่ได้ มาตอนนี้เนื้อตัวเหมือนโดนมัดเจ็บปวดไปหมดขยับก็ไม่ได้ ขอให้ท่านช่วยด้วย
ทางพ่อครูกำหนดรู้ว่าแม่มดอ็อกลานยอมแพ้ จึงสอนว่าคราวหลังอย่าได้ไปทำแบบนี้กับผู้ใดอีกเพราะเป็นบาปเป็นกรรม  ถ้าทำอีกจะโดนลงโทษเช่นนี้ เมื่อแม่มดอ็อกลานยอมทุกอย่าง พ่อครูจึงสั่งด้วยวาจาสิทธิ์ว่าให้คลายออก แล้วลานางไป
ชัยชนะของพ่อครูโพดอห่านทุกครั้งล้วนเกิดจากคุณธรรม คุณงามความดีของท่านทั้งสิ้นประกอบกับตัวยาที่สักไว้ในตัวจึงเกิดอิทธิฤทธิ์ไปในการปราบคุณไสยมนต์ดำได้อย่างน่าอัศจรรย์ ความสามารถนี้เกิดได้กับผู้ที่ผ่านการสักยาสัจจะทุกท่าน ทั้งนี้มีความเคารพในพระรัตนตรัย พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ถือสัจจะด้วยความจริงใจ ผู้ที่ประพฤติตนได้เช่นนี้ย่อมเกิดอิทธิฤทธิ์จากอำนาจครูที่จะบันดาลให้มีอำนาจเหนือภูติผีปีศาจมารร้ายทั้งหลายได้อย่างน่าอัศจรรย์

ตำนานพ่อครูของวิชาสายยาสัจจะนั้น แต่ละท่านล้วนประกอบคุณงามความดี มีความอดทนมีความเพียรไม่ย่อท้อต่อการสร้างความดีแห่งตน และมีสัจจะจริงใจ ตั้งมั่นในคุณธรรม ท่านทั้งหลายจึงมีคุณวิเศษเป็นที่เลื่องลือจนมาถึงทุกวันนี้ วิชาสายยาสัจจะนั้นเป็นวิชาที่มีอิทธิฤทธิ์มาก และเป็นวิชาทางช่วยเหลือผู้คนดังนั้นผู้ที่รับวิชานี้จึงต้องมีศีล มีธรรมมีเมตตาจึงสามารถรับวิชานี้ไปช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม
ผู้ที่เข้าถึงวิชาสายยาสัจจะมีความเคารพเชื่อมั่น เมื่อพบกับผู้โดนคุณไสยฯ แม้ว่าไม่รู้คาถาสักตัว ก็สามารถใช้วาจาสิทธิ์ของตนสั่งให้ผีออกจากร่างหรือสั่งให้คุณไสยมนต์ดำเสื่อมฤทธิ์ออกมาจากร่างของผู้ป่วยได้ เพราะวิชายาสัจจะนั้นตราบเท่าที่เรายังรักษาสัจจะที่ไว้กับครู มีศีลมีธรรม ตราบนั้นเนื้อตัววาจาใจของเราจะศักดิ์สิทธิ์ตามฤทธิ์อำนาจยาไปด้วย

คุณธรรม ศีลธรรม จึงนับเป็นหัวใจสำคัญของอำนาจความศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย วาจาจะศักดิ์สิทธิ์ได้ ก็ต้องมีสัจจะความจริง จิตใจจะมีฤทธิ์ได้ก็ต้องมีสติ มีสมาธิ มีคุณธรรม ศีลธรรม ผู้ใดที่รักษาความประพฤติได้ตามนี้ย่อมรักษาอำนาจกายสิทธิ์แห่งวิชาและย่อมพบแต่สิ่งที่ดีงามเสมอไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น